บทที่ 11
สำนักงานจำลองและการฝึกปฏิบัติสำนักงาน
สำนักงานจำลอง
สำนักงานที่ถูกสร้างขึ้นเลียนแบบสำนักงานของหน่วยงานโดยมีวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้สำหรับการฝึกปฏิบัติอย่างครบถ้วน
การจัดสำนักงานจำลอง
การจัดสำนักงานจำลองขึ้นในสถานศึกษา ผู้รับผิดชอบจะต้องทำการวางแผนไว้ล่วงหน้าในการจัดหาสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ ซึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก จัดทำโครงสร้างและแผนผังสำนักงานให้มีสภาพเหมือนสำนักงานจริง โดยนำเอาแบบอย่างของสำนักงานแห่งใดแห่งหนึ่งที่เห็นว่าดีและเหมาะที่จะเป็นแบบอย่าง
การฝึกปฏิบัติงานในสำนักงาน
1. เพื่อการเรียนรู้งาน
2. เพื่อฝึกฝนทักษะในการปฏิบัติงาน
3. เพื่อการปรับตัวให้เข้ากับงาน
4. เพื่อการนำเอาวิชาความรู้ที่มีมาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ในการทำงาน
5. เพื่อพัฒนาความสามารถในการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพ
ความรู้และทักษะในการปฏิบัติงานสำนักงาน
1. ความรู้เกี่ยวกับสาขาวิชาธุรกิจ
2. ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติงานสำนักงาน
3. ความรู้และทักษะเกี่ยวกับการใช้เครื่องใช้สำนักงาน
4. ความสามารถในการบริหารจัดการ
5. ความสามารถในการสื่อสาร
6. ความสามารถในการสร้างมนุษยสัมพันธ์
ข้อพึงปฏิบัติสำหรับการปฏิบัติงานในสำนักงาน
1. ข้อพึงปฏิบัติต่อลูกค้าและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
2. ข้อพึงปฏิบัติต่อบุคลากรด้วยกัน
3. ข้อพึงประพฤติปฏิบัติส่วนตัว
4. ข้อพึงปฏิบัติเมื่อเกิดปัญญา
5. การประพฤติปฏิบัติหน้าที่ที่ขัดต่อผลประโยชน์ขององค์การ
การจัดการสำนักงาน
วิชาการจัดการสำนักงาน แผนกวิชาเลขานุการ วิทยาลัยเทคนิคกระบี่
วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2561
บทที่ 10 เครื่องใช้สำนักงาน
บทที่ 10 เครื่องใช้สำนักงาน
เครื่องใช้สำนักงาน
เครื่องมือเครื่องใช้ที่ช่วยในการปฏิบัติงานของพนักงานในสำนักงานให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความถูกต้องชัดเจน สร้างความประทับใจให้แก่ผู้รับอันจะนำไปสู้ความสำเร็จในการติดต่อ
ประโยชน์ในการใช้เครื่องใช้สำนักงาน
1. การลดต้นทุนในการทำงาน
2. การลดความเบื่อหน่าย
3. การลดความเมื่อยล้า
4. การสร้างความสวยงาม
5. การเพิ่มประสิทธิภาพและความถูกต้อง
6. ความสามารถในการควบคุม
7. ช่วยลดงานที่ทำค้าง
การเลือกเครื่องใช้สำนักงาน
1. ความจำเป็นในการใช้งาน
2. ความเหมาะสม
3. ความเชื่อถือได้
4. รายละเอียดต่างๆ ของเครื่องใช้สำนักงาน
5. ราคา
6. ต้นทุนในการทำงาน
7. ความปลอดภัยในการใช้งาน
8. การบำรุงรักษา
9. บริการหลังการขาย
วิธีการจัดหาเครื่องใช้สำนักงาน
1. การซื้อ
2. การเช่า
3. การเช่าซื้อ
ประเภทของเครื่องใช้สำนักงาน
1. เครื่องพิมพ์ดีด
2. เครื่องคำนวณเลข
3. เครื่องถ่ายเอกสาร
4. เครื่องโทรสาร
5. เครื่องคอมพิวเตอร์
6. เครื่องพิมพ์
7. เครื่องปรุกระดาษไข
8. เครื่องอัดสำเนา
9. เครื่องอัดสำเนาดิจิตอล
เครื่องใช้สำนักงาน
เครื่องมือเครื่องใช้ที่ช่วยในการปฏิบัติงานของพนักงานในสำนักงานให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความถูกต้องชัดเจน สร้างความประทับใจให้แก่ผู้รับอันจะนำไปสู้ความสำเร็จในการติดต่อ
ประโยชน์ในการใช้เครื่องใช้สำนักงาน
1. การลดต้นทุนในการทำงาน
2. การลดความเบื่อหน่าย
3. การลดความเมื่อยล้า
4. การสร้างความสวยงาม
5. การเพิ่มประสิทธิภาพและความถูกต้อง
6. ความสามารถในการควบคุม
7. ช่วยลดงานที่ทำค้าง
การเลือกเครื่องใช้สำนักงาน
1. ความจำเป็นในการใช้งาน
2. ความเหมาะสม
3. ความเชื่อถือได้
4. รายละเอียดต่างๆ ของเครื่องใช้สำนักงาน
5. ราคา
6. ต้นทุนในการทำงาน
7. ความปลอดภัยในการใช้งาน
8. การบำรุงรักษา
9. บริการหลังการขาย
วิธีการจัดหาเครื่องใช้สำนักงาน
1. การซื้อ
2. การเช่า
3. การเช่าซื้อ
ประเภทของเครื่องใช้สำนักงาน
1. เครื่องพิมพ์ดีด
2. เครื่องคำนวณเลข
3. เครื่องถ่ายเอกสาร
4. เครื่องโทรสาร
5. เครื่องคอมพิวเตอร์
6. เครื่องพิมพ์
7. เครื่องปรุกระดาษไข
8. เครื่องอัดสำเนา
9. เครื่องอัดสำเนาดิจิตอล
บทที่ 9 การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการบริหารงานเอกสาร
บทที่ 9 การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการบริหารงานเอกสาร
เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ คือ เอกสารที่ถูกบันทึกลงในสืื่อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปใช้งานหรือจัดเก็บในรูปแบบของไฟล์เอกสาร ซึ่งสามารถจัดทำเป็นไฟล์ต่างๆ ตามควารมต้องการในการใช้งาน
ประโยชน์ของจดอิเล็กทรอนิกส์
1.ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
2.ช่วยลดพื้นที่ในกสรจัดเก็บเอกสาร
3.ช่วยลดเวลาในการปฎิบัติงานโดยไม่ต้องเดินเอกสาร
4.ช่วยลดเวลาในการจัดเก็บเอกสาร
5.ช่วยให้หมีความสะดวกรวดเร็วในการปฏิบัติงาน
รูปแบบของเอกสารอิเล็กทรอนิกส์
1.รูปแบบเอกสารข้อความ เป็นเอกสารที่ผลิตจากเครื่องมือต่างๆในรูปแบบข้อความ
2.รูปแบบเอกสารภาพ
การนำเอกสารอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในสำนักงาน
เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการดูแลการจัดเอกสาร การสืบค้นเพื่อนำไปใช้งาน และการรักษาความลับขององค์การ ระบบการจัดเก็บเอกสารอิเล็กทรอนิกส์จึงมีความสำคัญเช่นเดียวกับเอกสารทั่วไป
กระบวนการจัดเก็บเอกสารอิเล็กทรอนิกส์
1.การผลิต
2.การควบคุม
3.การจัดเก็บ
4.การเรียกใช้
5.การทำลาย
การสร้างเอกสารอิเล็กทรอนิกส์
1.การผลิตเอกสารด้วยโปรแกรม microsoft word
2.การสร้างตาราง
3.การแทรกรูปภาพ
4.การแทรก clip art
5.การแทรก shapes
6.การแทรก smartart
7.การแทรกแผนภูมิ
การจัดระบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์
1.ไฟล์ คือ หน่วยข้อมูลต่่างๆ ที่จัดเก็บไว้สำหรับเรียกใช้งาน
2.โฟล์เดอร์ คือ หน่วยสำหรับการจัดเก็บเอกสารไฟล์ข้อมูลต่างๆ เปรียบเสมือนกับแฟ้มเอกสารที่ใช้สำหรับจัดเก็บเอกสารต่างๆ
เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ คือ เอกสารที่ถูกบันทึกลงในสืื่อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปใช้งานหรือจัดเก็บในรูปแบบของไฟล์เอกสาร ซึ่งสามารถจัดทำเป็นไฟล์ต่างๆ ตามควารมต้องการในการใช้งาน
ประโยชน์ของจดอิเล็กทรอนิกส์
1.ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย
2.ช่วยลดพื้นที่ในกสรจัดเก็บเอกสาร
3.ช่วยลดเวลาในการปฎิบัติงานโดยไม่ต้องเดินเอกสาร
4.ช่วยลดเวลาในการจัดเก็บเอกสาร
5.ช่วยให้หมีความสะดวกรวดเร็วในการปฏิบัติงาน
รูปแบบของเอกสารอิเล็กทรอนิกส์
1.รูปแบบเอกสารข้อความ เป็นเอกสารที่ผลิตจากเครื่องมือต่างๆในรูปแบบข้อความ
2.รูปแบบเอกสารภาพ
การนำเอกสารอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในสำนักงาน
เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการดูแลการจัดเอกสาร การสืบค้นเพื่อนำไปใช้งาน และการรักษาความลับขององค์การ ระบบการจัดเก็บเอกสารอิเล็กทรอนิกส์จึงมีความสำคัญเช่นเดียวกับเอกสารทั่วไป
กระบวนการจัดเก็บเอกสารอิเล็กทรอนิกส์
1.การผลิต
2.การควบคุม
3.การจัดเก็บ
4.การเรียกใช้
5.การทำลาย
การสร้างเอกสารอิเล็กทรอนิกส์
1.การผลิตเอกสารด้วยโปรแกรม microsoft word
2.การสร้างตาราง
3.การแทรกรูปภาพ
4.การแทรก clip art
5.การแทรก shapes
6.การแทรก smartart
7.การแทรกแผนภูมิ
การจัดระบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์
1.ไฟล์ คือ หน่วยข้อมูลต่่างๆ ที่จัดเก็บไว้สำหรับเรียกใช้งาน
2.โฟล์เดอร์ คือ หน่วยสำหรับการจัดเก็บเอกสารไฟล์ข้อมูลต่างๆ เปรียบเสมือนกับแฟ้มเอกสารที่ใช้สำหรับจัดเก็บเอกสารต่างๆ
วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2561
บทที่ 8 การบริหารงานเอกสาร
บทที่ 8 ความหมายและความสำคัญของเอกสารและการบริหารเอกสาร
ความหมายของเอกสารตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ. ศ. 2542 หมายถึงหนังสือที่เป็นหลักฐาน กระดาษหรือวัตถุอื่นใด ซึ่งทำให้ปรากฏความหมายด้วยอักษร ตัวเลข ผัง หรือแผนแบบอย่างอื่น จะเป็นด้วยวิธีพิมพ์ถ่ายภาพหรือวิธีอื่นอันเป็นหลักฐานแห่งความหมายนั้น
เอกสาร หมายถึงกระดาษหนังสือหรือวัตถุอื่นๆที่จัดทำขึ้นมาเป็นเอกสารต่างๆสำหรับการดำเนินงานของกิจการซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบของแบบฟอร์ม จดหมายหนังสือในรูปแบบอื่นๆ
การบริหารงานเอกสาร หมายถึง การดำเนินงานเกี่ยวกับเอกสารภายในสำนักงานเพื่อการผลิตการใช้งานการจัดเก็บและการทำลายเอกสารตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการจนสิ้นสุดกระบวนการใช้งานเอกสาร
การจัดเก็บเอกสารหมายถึงกระบวนการในการจัดเก็บเอกสารให้เป็นระเบียบเรียบร้อยโดยการรวบรวมเอกสารต่างๆมาเก็บไว้ด้วยการและการจัดเก็บเป็นหมวดหมู่เพื่อความสะดวกและการค้นหาและการนำไปใช้ในครั้งต่อไป
วงจรชีวิตของเอกสาร
1 การผลิต
2 การใช้ประโยชน์
3 การจัดเก็บ
4 การเรียกใช้หรือการสืบค้น
5 การกำหนดสภาพ
กระบวนการบริหารงานเอกสาร
1 การวางแผน
2 การกำหนดหน้าที่และโครงสร้างของงานเอกสาร
3 การออกแบบระบบการจัดการเอกสาร
4 การเก็บรักษา
5 ควบคุมเอกสาร
6 การทำลายเอกสาร
ประเภทเอกสาร
1 เอกสารภายนอก
2 ส่งเอกสารภายใน
3 เอกสารสำหรับติดต่อภายในสำนักงาน
การทำลายเอกสาร
1 เอกสารที่เก็บรักษาไว้นั้นเป็นเอกสารอะไรบ้างต้องเก็บนานเท่าไหร่เอกสารใดบ้างที่สามารถทำลายทิ้งได้
2 มีวิธีการจัดทำไรกับเอกสารที่สามารถทำลายได้อย่างไร
3 มีมาตรการและขั้นตอนในการทำลายเอกสารอย่างไร
ความหมายของเอกสารตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ. ศ. 2542 หมายถึงหนังสือที่เป็นหลักฐาน กระดาษหรือวัตถุอื่นใด ซึ่งทำให้ปรากฏความหมายด้วยอักษร ตัวเลข ผัง หรือแผนแบบอย่างอื่น จะเป็นด้วยวิธีพิมพ์ถ่ายภาพหรือวิธีอื่นอันเป็นหลักฐานแห่งความหมายนั้น
เอกสาร หมายถึงกระดาษหนังสือหรือวัตถุอื่นๆที่จัดทำขึ้นมาเป็นเอกสารต่างๆสำหรับการดำเนินงานของกิจการซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบของแบบฟอร์ม จดหมายหนังสือในรูปแบบอื่นๆ
การบริหารงานเอกสาร หมายถึง การดำเนินงานเกี่ยวกับเอกสารภายในสำนักงานเพื่อการผลิตการใช้งานการจัดเก็บและการทำลายเอกสารตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการจนสิ้นสุดกระบวนการใช้งานเอกสาร
การจัดเก็บเอกสารหมายถึงกระบวนการในการจัดเก็บเอกสารให้เป็นระเบียบเรียบร้อยโดยการรวบรวมเอกสารต่างๆมาเก็บไว้ด้วยการและการจัดเก็บเป็นหมวดหมู่เพื่อความสะดวกและการค้นหาและการนำไปใช้ในครั้งต่อไป
วงจรชีวิตของเอกสาร
1 การผลิต
2 การใช้ประโยชน์
3 การจัดเก็บ
4 การเรียกใช้หรือการสืบค้น
5 การกำหนดสภาพ
กระบวนการบริหารงานเอกสาร
1 การวางแผน
2 การกำหนดหน้าที่และโครงสร้างของงานเอกสาร
3 การออกแบบระบบการจัดการเอกสาร
4 การเก็บรักษา
5 ควบคุมเอกสาร
6 การทำลายเอกสาร
ประเภทเอกสาร
1 เอกสารภายนอก
2 ส่งเอกสารภายใน
3 เอกสารสำหรับติดต่อภายในสำนักงาน
การทำลายเอกสาร
1 เอกสารที่เก็บรักษาไว้นั้นเป็นเอกสารอะไรบ้างต้องเก็บนานเท่าไหร่เอกสารใดบ้างที่สามารถทำลายทิ้งได้
2 มีวิธีการจัดทำไรกับเอกสารที่สามารถทำลายได้อย่างไร
3 มีมาตรการและขั้นตอนในการทำลายเอกสารอย่างไร
บทที่ 7 การจัดสายการดำเนินงาน
บทที่ 7 ความหมายและความสำคัญของการจัดสาย การดำเนินงาน
การจัดสายการดำเนินงานหมายถึงการแบ่งหน่วยงานภายในองค์กรเพื่อการปฏิบัติงานต่างๆโดยการจัดให้งานที่เหมือนกันหรือคล้ายกันอยู่ในหน่วยงานเดียวกันและจัดสายการบังคับบัญชาของหน่วยงานต่างๆเพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการ
ความสำคัญของการจัดสายการดำเนินงาน
การจัดรายการดำเนินงานมีความสำคัญอย่างมากต่อการบริหารสำนักงานโดยสามารถสรุปความสำคัญได้ดังนี้
1 เพื่อการบังคับบัญชา
2 เพื่อการปฏิบัติ
3 เพื่อการติดต่อประสานงาน
4 เพื่อการจัดสรรงบประมาณ
5 เพื่อการบริหารทรัพยากรบุคคล
การกำหนดหน้าที่และโครงสร้างของงานสำนักงาน
1 กิจกรรมหลักขององค์การ
2 ความสำคัญของงานสำนักงานต่อผู้บริหาร
3 ลักษณะการใช้เครื่องใช้สำนักงาน
4 การจัดการบริหารงานขององค์การ
โครงสร้างสำนักงาน
ในการดำเนินงานของสำนักงานจำเป็นต้องมีโครงสร้างเพื่อให้ทราบสายงานภายในสำนักงานว่ามีระบบงานเป็นอย่างไรโครงสร้างสำนักงานมักจะจัดทำอยู่ในรูปแบบ แผนภูมิเพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ
ประเภทโครงสร้างขององค์การ
1 โครงสร้างองค์การแบบงานหลัก
2 โครงสร้างองค์การแบบงานหลักและที่ปรึกษา
การวางรูปงานสำนักงาน
คือการนำเอางานของทุกแผนกทุกฝ่ายมาแจกแจงให้ทราบอย่างแน่ชัดว่าหน่วยงานประกอบด้วยแผนกงานใดขึ้นตรงต่อเวลาใดทั้งนี้เพื่อบรรลุเป้าหมายและนโยบายของหน่วยงานทำให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดแผนกงานในสำนักงาน
1 การแบ่งแผนกตามงานหน้าที่
2 การจัดแบ่งแผนกงานตามประเภทของผลิตภัณฑ์
3 การจัดแผนกงานตามโครงการ
4 การจัดแผนกงานตามพื้นที่
5 การจัดแผนกงานตามลูกค้า
การจัดสายการดำเนินงานหมายถึงการแบ่งหน่วยงานภายในองค์กรเพื่อการปฏิบัติงานต่างๆโดยการจัดให้งานที่เหมือนกันหรือคล้ายกันอยู่ในหน่วยงานเดียวกันและจัดสายการบังคับบัญชาของหน่วยงานต่างๆเพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการ
ความสำคัญของการจัดสายการดำเนินงาน
การจัดรายการดำเนินงานมีความสำคัญอย่างมากต่อการบริหารสำนักงานโดยสามารถสรุปความสำคัญได้ดังนี้
1 เพื่อการบังคับบัญชา
2 เพื่อการปฏิบัติ
3 เพื่อการติดต่อประสานงาน
4 เพื่อการจัดสรรงบประมาณ
5 เพื่อการบริหารทรัพยากรบุคคล
การกำหนดหน้าที่และโครงสร้างของงานสำนักงาน
1 กิจกรรมหลักขององค์การ
2 ความสำคัญของงานสำนักงานต่อผู้บริหาร
3 ลักษณะการใช้เครื่องใช้สำนักงาน
4 การจัดการบริหารงานขององค์การ
โครงสร้างสำนักงาน
ในการดำเนินงานของสำนักงานจำเป็นต้องมีโครงสร้างเพื่อให้ทราบสายงานภายในสำนักงานว่ามีระบบงานเป็นอย่างไรโครงสร้างสำนักงานมักจะจัดทำอยู่ในรูปแบบ แผนภูมิเพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ
ประเภทโครงสร้างขององค์การ
1 โครงสร้างองค์การแบบงานหลัก
2 โครงสร้างองค์การแบบงานหลักและที่ปรึกษา
การวางรูปงานสำนักงาน
คือการนำเอางานของทุกแผนกทุกฝ่ายมาแจกแจงให้ทราบอย่างแน่ชัดว่าหน่วยงานประกอบด้วยแผนกงานใดขึ้นตรงต่อเวลาใดทั้งนี้เพื่อบรรลุเป้าหมายและนโยบายของหน่วยงานทำให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
การจัดแผนกงานในสำนักงาน
1 การแบ่งแผนกตามงานหน้าที่
2 การจัดแบ่งแผนกงานตามประเภทของผลิตภัณฑ์
3 การจัดแผนกงานตามโครงการ
4 การจัดแผนกงานตามพื้นที่
5 การจัดแผนกงานตามลูกค้า
บทที่ 6 การจัดผังสำนักงาน
บทที่ 6
วัตถุประสงค์ในการวางผังสำนักงาน
1 เพื่อใช้เนื้อที่ภายในสำนักงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
2 การไหลของงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
3 เพื่อให้สำนักงานมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย
4 เพื่อให้มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการปฏิบัติงาน
5 เพื่อให้บุคลากรมีความพึงพอใจในการทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
6 เพื่อสร้างความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน
7 เพื่อให้มีความสะดวกในการบริหารงาน
8 เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการออกแบบแผนผังสำนักงาน
รูปแบบการจัดแผนผังสำนักงาน
รูปแบบการจัดแผนผังสำนักงานคือการจัดพื้นที่ในการปฏิบัติงานของบุคลากรภายในสำนักงานการจัดโต๊ะทำงานเครื่องมือเครื่องใช้และอุปกรณ์ต่างๆสำหรับการปฏิบัติงานสำนักงานสามารถแบ่งรูปแบบออกเป็น 4 รูปดังนี้
1 การจัดสำนักงานแบบเปิด
2 การจัดแผนผังสำนักงานแบบใช้แผงกั้น
3 การจัดแผนผังสำนักงานแบบเน้นทัศนียภาพ
4 การจัดแผนผังสำนักงานแบบแยกห้อง
การวางแผนผังสำนักงาน
การวางแผนผังสำนักงานคือการกำหนดพื้นที่ใช้สอยภายในสำนักงานสำหรับการปฏิบัติงานการจัดวางเครื่องมือเครื่องอุปกรณ์ต่างๆเพื่อให้มีการใช้พื้นที่ภายในสำนักงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
หลักการในการวางแผนผังสำนักงาน
1 การจัดสายการไหลของงาน
2 การจัดการบังคับบัญชา
3 การจัดการสื่อสารและการประสานงาน
4 การกำหนดเนื้อที่สำหรับการปฏิบัติงาน
5 การจัดวางเครื่องมืออุปกรณ์
6 การจัดทางเดินที่เหมาะสม
7 จัดสถานที่สำหรับบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อ
8 การคำนึงถึงความปลอดภัยของบุคลากร
9 การจัดแสงสว่างอุณหภูมิเสียง
10 การจัดความเป็นส่วนตัวให้แก่บุคลากร
การจัดแสงสว่าง
1 งานที่ต้องเพ่งมาก
2 งานธรรมดา
การจัดเครื่องใช้สำนักงานและการตกแต่งสำนักงาน
เครื่องใช้สำนักงาน เครื่องใช้สำนักงานถือเป็นส่วนสำคัญในการจัดผังสำนักงานเพื่อพื้นที่ส่วนใหญ่ในสำนักงานจะต้องประกอบด้วยเครื่องใช้สำนักงานจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งโต๊ะทำงานสำหรับบุคลากรซึ่งจะต้องจัดให้บุคลากร 1 คนมีโต๊ะทำงานที่ 1 ตัวเพราะฉะนั้นอย่างน้อยที่สุดภายในสำนักงานจะต้องประกอบด้วยโต๊ะทำงานจำนวนเท่ากับบุคลากรในทำงานส่วนที่เหลือนั้นคือเครื่องใช้สำนักงานอย่างอื่นที่มีความจำเป็นในการปฏิบัติงานสำคัญ
เครื่องตกแต่งสำนักงาน เครื่องตกแต่งสํานักงานเป็นสิ่งที่ใช้สำหรับตกแต่งสำนักงานให้มีความสวยงามช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของสำนักงานแต่ผู้ที่เข้ามาติดต่อและเพื่อสร้างบรรยากาศในการทำงานให้บุคลากรในสำนักงานรู้สึกผ่อนคลายซึ่งไม่สามารถนำไปใช้ในการเกิดประโยชน์ใดๆในการทำงานได้แต่มีผลทางจิตวิทยาโดยจะช่วยให้บุคลากรมีกำลังใจในการบริการ
ความสะอาดและความเป็นระเบียบ
1 ทำให้การทำงานของบุคลากรไม่มีอุปสรรคขัดขวางการทำงาน
2 ช่วยให้ถูกสุขลักษณะบุคลากรในสำนักงานมีสุขภาพกายและใจ ที่ดี
3 ช่วยจูงใจให้บุคลากรอยากทำงานเพราะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี
4 ช่วยสร้างทัศนคติที่ดีต่อผู้มาติดต่อสำนักงาน
วัตถุประสงค์ในการวางผังสำนักงาน
1 เพื่อใช้เนื้อที่ภายในสำนักงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
2 การไหลของงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
3 เพื่อให้สำนักงานมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย
4 เพื่อให้มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการปฏิบัติงาน
5 เพื่อให้บุคลากรมีความพึงพอใจในการทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
6 เพื่อสร้างความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน
7 เพื่อให้มีความสะดวกในการบริหารงาน
8 เพื่อช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการออกแบบแผนผังสำนักงาน
รูปแบบการจัดแผนผังสำนักงาน
รูปแบบการจัดแผนผังสำนักงานคือการจัดพื้นที่ในการปฏิบัติงานของบุคลากรภายในสำนักงานการจัดโต๊ะทำงานเครื่องมือเครื่องใช้และอุปกรณ์ต่างๆสำหรับการปฏิบัติงานสำนักงานสามารถแบ่งรูปแบบออกเป็น 4 รูปดังนี้
1 การจัดสำนักงานแบบเปิด
2 การจัดแผนผังสำนักงานแบบใช้แผงกั้น
3 การจัดแผนผังสำนักงานแบบเน้นทัศนียภาพ
4 การจัดแผนผังสำนักงานแบบแยกห้อง
การวางแผนผังสำนักงาน
การวางแผนผังสำนักงานคือการกำหนดพื้นที่ใช้สอยภายในสำนักงานสำหรับการปฏิบัติงานการจัดวางเครื่องมือเครื่องอุปกรณ์ต่างๆเพื่อให้มีการใช้พื้นที่ภายในสำนักงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
หลักการในการวางแผนผังสำนักงาน
1 การจัดสายการไหลของงาน
2 การจัดการบังคับบัญชา
3 การจัดการสื่อสารและการประสานงาน
4 การกำหนดเนื้อที่สำหรับการปฏิบัติงาน
5 การจัดวางเครื่องมืออุปกรณ์
6 การจัดทางเดินที่เหมาะสม
7 จัดสถานที่สำหรับบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อ
8 การคำนึงถึงความปลอดภัยของบุคลากร
9 การจัดแสงสว่างอุณหภูมิเสียง
10 การจัดความเป็นส่วนตัวให้แก่บุคลากร
การจัดแสงสว่าง
1 งานที่ต้องเพ่งมาก
2 งานธรรมดา
การจัดเครื่องใช้สำนักงานและการตกแต่งสำนักงาน
เครื่องใช้สำนักงาน เครื่องใช้สำนักงานถือเป็นส่วนสำคัญในการจัดผังสำนักงานเพื่อพื้นที่ส่วนใหญ่ในสำนักงานจะต้องประกอบด้วยเครื่องใช้สำนักงานจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งโต๊ะทำงานสำหรับบุคลากรซึ่งจะต้องจัดให้บุคลากร 1 คนมีโต๊ะทำงานที่ 1 ตัวเพราะฉะนั้นอย่างน้อยที่สุดภายในสำนักงานจะต้องประกอบด้วยโต๊ะทำงานจำนวนเท่ากับบุคลากรในทำงานส่วนที่เหลือนั้นคือเครื่องใช้สำนักงานอย่างอื่นที่มีความจำเป็นในการปฏิบัติงานสำคัญ
เครื่องตกแต่งสำนักงาน เครื่องตกแต่งสํานักงานเป็นสิ่งที่ใช้สำหรับตกแต่งสำนักงานให้มีความสวยงามช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของสำนักงานแต่ผู้ที่เข้ามาติดต่อและเพื่อสร้างบรรยากาศในการทำงานให้บุคลากรในสำนักงานรู้สึกผ่อนคลายซึ่งไม่สามารถนำไปใช้ในการเกิดประโยชน์ใดๆในการทำงานได้แต่มีผลทางจิตวิทยาโดยจะช่วยให้บุคลากรมีกำลังใจในการบริการ
ความสะอาดและความเป็นระเบียบ
1 ทำให้การทำงานของบุคลากรไม่มีอุปสรรคขัดขวางการทำงาน
2 ช่วยให้ถูกสุขลักษณะบุคลากรในสำนักงานมีสุขภาพกายและใจ ที่ดี
3 ช่วยจูงใจให้บุคลากรอยากทำงานเพราะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี
4 ช่วยสร้างทัศนคติที่ดีต่อผู้มาติดต่อสำนักงาน
บทที่ 5 การบริหารจัดการสำนักงาน
บทที่ 5
ลักษณะของการวางแผนงานในสำนักงาน
1 มีความยืดหยุ่น
2 มีความถูกต้อง
3 มีความชัดเจน
4 มีความสอดคล้อง
5 มีลำดับการทำงาน
ประเภทของการวางแผน
1. ประเภทของการวางแผนจำแนกตามระดับการของบริหารงาน
2. การจำแนกประเภทของการวางแผนตามระยะเวลา
3. ประเภทของการวางแผนจำแนกตามหน้าที่ของหน่วยงานธุรกิจ
ขั้นตอนการวางแผนงานสำนักงาน
1 ขั้นเตรียมการ
2 ขั้นวางแผน
3 ขั้นปฏิบัติตามแผน
4 ขั้นประเมินผล
5 ขั้นปรับปรุงการจัดการองค์กร
การจัดการองค์กร หมายถึงเป็นการจัดระเบียบและวิธีการในการปฏิบัติงานของกิจกรรมต่างๆภายในองค์การโดยขึ้นอยู่กับลักษณะของงานอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบแต่ของแต่ละงานซึ่งอาจจัดทำเป็นรูปแบบของแผนภูมิโครงสร้างขององค์กรเพื่อให้ทราบถึงขอบเขตอำนาจหน้าที่ได้ให้ขึ้น
การอำนวยการ หมายถึงกิจกรรมต่างๆอันเป็นหน้าที่ของผู้บริหารเพื่อให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรในบังคับบัญชาให้สามารถปฏิบัติงานได้สำเร็จตามวัตถุประสงค์
การมอบหมายงาน
การมอบหมายงานหมายถึงการที่ผู้บังคับบัญชาได้มอบหมายงานให้ผู้ใต้บังคับบัญชารับผิดชอบและปฏิบัติซึ่งผู้ใต้บังคับบัญชาจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่ผู้บังคับบัญชาได้กำหนดไว้
ประโยชน์ในการมอบหมายงาน
1.ช่วยทำให้งานสำเร็จเร็วมากขึ้น
2.สร้างแรงจูงใจให้กับผู้รับมอบหมายงาน
3.ช่วยลดแรงกดดัน
4.ได้รับการชื่นชมว่าเป็นบุคคลที่พยายามพัฒนาศักยภาพของบุคลากร
5.ช่วยสร้างโอกาสความก้าวหน้าให้ตนเองและผู้อื่น
หลักเกณฑ์ในการมอบหมายงาน
1.พิจารณาอาหารที่จะมอบหมาย
2.พิจารณาความรู้ความสามารถทักษะและประสบการณ์
3.พิจารณาทีมงานสำหรับงานที่จะต้องทำเป็นทีม
4.พิจารณาทรัพยากรและจัดการทรัพยากร
5.ให้ความสำคัญกับงานที่มอบหมาย
6.ให้ความไว้วางใจในการทำงานและเปิดโอกาสในการตัดสินใจ
7.เปิดโอกาสในการแก้ไขงาน
8.ประเมินผลการปฏิบัติงาน
การประสานงาน
การประสานงานหมายถึงการติดต่อระหว่างกันในการปฏิบัติงานเพื่อการทำงานร่วมกันโดยได้รับความร่วมมือร่วมใจกันในการทำงานตามหน้าที่ซึ่งมีความสอดคล้องและสัมพันธ์กันเปื้อนในการทํางานเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์
หลักการประสานงานการประสานงานให้มีประสิทธิภาพจะต้องคำนึงถึงหลักการประสานงานที่ถูกต้องประกอบด้วยหลัก การต่างๆดังนี้
1.จัดระบบการติดต่อสื่อสารที่ดี
2.จัดระบบความร่วมมือที่ดี
3.จัดระบบการประสานงานที่ดี
4.จัดให้มีการประสานงานนโยบายและวัตถุประสงค์ขององค์กรให้สอดคล้องกัน
5.จัดให้มีการประสานงานในรูปกระบวนการบริหารที่ครบวงจร
6.การประสานงานเป็นเรื่องเกี่ยวกับเทคนิคการบริหาร
7.จัดการประสานงานทุกระดับชั้น
การจูงใจ
เป็นวิธีการที่มีความสำคัญต่อการดำเนินกิจกรรมหลายๆด้านเพื่อให้บุคคลอันเป็นเป้าหมายยอมรับและปฏิบัติตามความต้องการด้วยความเต็มใจได้แก่การจูงใจลูกค้าของพนักงานขายการจูงใจบุคลากรการจูงใจผู้ร่วมงานเป็นต้น สำหรับภาวะผู้นำการจูงใจมีความสำคัญหลายประการดังนี
1.ทำให้การมอบอำนาจหน้าที่ของผู้นำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
2.เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใต้บังคับบัญชา
3.ช่วยเสริมสร้างกำลังใจในการปฏิบัติงาน
4.ช่วยบุคลากรมีความจงรักภักดีต่อองค์กร
5.ทำให้เกิดความสามัคคี
6.เพื่อช่วยในการควบคุม
7.ทำให้เกิดความเจริญก้าวหน้าในการทำงาน
เทคนิคการจูงใจ
1. เปิดโอกาสในการแสดงความคิดเห็นและแสดงความสามารถอย่างเต็มที่
2.สร้างสัมพันธภาพที่ดี
3.การชมเชย
4.ให้การสนับสนุน
5.ให้โอกาสในความก้าวหน้า
6.การให้รางวัล
7.การให้ความช่วยเหลือ
8.การสร้างบรรยากาศในการทำงาน
การตัดสินใจ
การตัดสินใจหมายถึงการพิจารณาทางเลือกสำหรับเรื่องใดเรื่องหนึ่งจากหลายๆทางเลือกเพื่อให้ได้ทางเลือกที่ดีที่สุด หรือเหมาะสมที่สุดสำหรับนำไปใช้ในการดำเนินกิจการเพื่อบรรลุตามวัตถุประสงค์โดยใช้เครื่องมือและกระบวนการต่างๆในการวิเคราะห์ทางเลือก
กระบวนการตัดสินใจเป็นขั้นตอนที่นำมาใช้ในการตัดสินใจซึ่งจะช่วยให้ผู้บริหารมีการตัดสินใจอย่างระเบียบทำให้การตัดสินใจมีประสิทธิภาพโดยการกระบวนโดยกระบวนการตัดสินใจประกอบด้วย
1.การกำหนดประเด็นปัญหา
2.การสร้างทางเลือก
3. การประเมินทางเลือก
4. การตัดสินใจและการนำไปใช้
5. การประเมินผล
การควบคุมสำนักงาน
การติดตามการปฏิบัติงานเพื่อตรวจสอบว่าเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้หรือไม่
วัตถุประสงค์ของการควบคุมการสำนักงาน
1 เพื่อให้ทราบถึงวิธีการปฏิบัติงานอย่างเป็นไปตามแผนงานอย่างถูกต้อง
2 เพื่อให้ผลการปฏิบัติงานมีมาตรฐานช่วยป้องกันความเสียหาย
3 เพื่อช่วยในวัดผลการปฏิบัติงานเพื่อทำให้ทราบว่าบุคลากรปฏิบัติงานอย่างถูกต้องหรือไม่
4 ช่วยจูงใจพนักงานให้มีความกระตือรือร้นในการปฏิบัติงาน
5 เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติงานให้จะให้ใช้ทรัพย์สินขององค์กรอย่างถูกต้อง
การวัดผลงาน
การวัดผลงาน หมายถึงวิธีการในการตรวจสอบผลการปฏิบัติงานของบุคลากรเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับมาตรฐานในการปฏิบัติงานซึ่งจะทำให้ทราบว่าบุคลากรสามารถปฏิบัติได้ตรงกับมาตรฐานหรือไม่
ลักษณะของการวางแผนงานในสำนักงาน
1 มีความยืดหยุ่น
2 มีความถูกต้อง
3 มีความชัดเจน
4 มีความสอดคล้อง
5 มีลำดับการทำงาน
ประเภทของการวางแผน
1. ประเภทของการวางแผนจำแนกตามระดับการของบริหารงาน
2. การจำแนกประเภทของการวางแผนตามระยะเวลา
3. ประเภทของการวางแผนจำแนกตามหน้าที่ของหน่วยงานธุรกิจ
ขั้นตอนการวางแผนงานสำนักงาน
1 ขั้นเตรียมการ
2 ขั้นวางแผน
3 ขั้นปฏิบัติตามแผน
4 ขั้นประเมินผล
5 ขั้นปรับปรุงการจัดการองค์กร
การจัดการองค์กร หมายถึงเป็นการจัดระเบียบและวิธีการในการปฏิบัติงานของกิจกรรมต่างๆภายในองค์การโดยขึ้นอยู่กับลักษณะของงานอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบแต่ของแต่ละงานซึ่งอาจจัดทำเป็นรูปแบบของแผนภูมิโครงสร้างขององค์กรเพื่อให้ทราบถึงขอบเขตอำนาจหน้าที่ได้ให้ขึ้น
การอำนวยการ หมายถึงกิจกรรมต่างๆอันเป็นหน้าที่ของผู้บริหารเพื่อให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรในบังคับบัญชาให้สามารถปฏิบัติงานได้สำเร็จตามวัตถุประสงค์
การมอบหมายงาน
การมอบหมายงานหมายถึงการที่ผู้บังคับบัญชาได้มอบหมายงานให้ผู้ใต้บังคับบัญชารับผิดชอบและปฏิบัติซึ่งผู้ใต้บังคับบัญชาจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่ผู้บังคับบัญชาได้กำหนดไว้
ประโยชน์ในการมอบหมายงาน
1.ช่วยทำให้งานสำเร็จเร็วมากขึ้น
2.สร้างแรงจูงใจให้กับผู้รับมอบหมายงาน
3.ช่วยลดแรงกดดัน
4.ได้รับการชื่นชมว่าเป็นบุคคลที่พยายามพัฒนาศักยภาพของบุคลากร
5.ช่วยสร้างโอกาสความก้าวหน้าให้ตนเองและผู้อื่น
หลักเกณฑ์ในการมอบหมายงาน
1.พิจารณาอาหารที่จะมอบหมาย
2.พิจารณาความรู้ความสามารถทักษะและประสบการณ์
3.พิจารณาทีมงานสำหรับงานที่จะต้องทำเป็นทีม
4.พิจารณาทรัพยากรและจัดการทรัพยากร
5.ให้ความสำคัญกับงานที่มอบหมาย
6.ให้ความไว้วางใจในการทำงานและเปิดโอกาสในการตัดสินใจ
7.เปิดโอกาสในการแก้ไขงาน
8.ประเมินผลการปฏิบัติงาน
การประสานงาน
การประสานงานหมายถึงการติดต่อระหว่างกันในการปฏิบัติงานเพื่อการทำงานร่วมกันโดยได้รับความร่วมมือร่วมใจกันในการทำงานตามหน้าที่ซึ่งมีความสอดคล้องและสัมพันธ์กันเปื้อนในการทํางานเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์
หลักการประสานงานการประสานงานให้มีประสิทธิภาพจะต้องคำนึงถึงหลักการประสานงานที่ถูกต้องประกอบด้วยหลัก การต่างๆดังนี้
1.จัดระบบการติดต่อสื่อสารที่ดี
2.จัดระบบความร่วมมือที่ดี
3.จัดระบบการประสานงานที่ดี
4.จัดให้มีการประสานงานนโยบายและวัตถุประสงค์ขององค์กรให้สอดคล้องกัน
5.จัดให้มีการประสานงานในรูปกระบวนการบริหารที่ครบวงจร
6.การประสานงานเป็นเรื่องเกี่ยวกับเทคนิคการบริหาร
7.จัดการประสานงานทุกระดับชั้น
การจูงใจ
เป็นวิธีการที่มีความสำคัญต่อการดำเนินกิจกรรมหลายๆด้านเพื่อให้บุคคลอันเป็นเป้าหมายยอมรับและปฏิบัติตามความต้องการด้วยความเต็มใจได้แก่การจูงใจลูกค้าของพนักงานขายการจูงใจบุคลากรการจูงใจผู้ร่วมงานเป็นต้น สำหรับภาวะผู้นำการจูงใจมีความสำคัญหลายประการดังนี
1.ทำให้การมอบอำนาจหน้าที่ของผู้นำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
2.เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใต้บังคับบัญชา
3.ช่วยเสริมสร้างกำลังใจในการปฏิบัติงาน
4.ช่วยบุคลากรมีความจงรักภักดีต่อองค์กร
5.ทำให้เกิดความสามัคคี
6.เพื่อช่วยในการควบคุม
7.ทำให้เกิดความเจริญก้าวหน้าในการทำงาน
เทคนิคการจูงใจ
1. เปิดโอกาสในการแสดงความคิดเห็นและแสดงความสามารถอย่างเต็มที่
2.สร้างสัมพันธภาพที่ดี
3.การชมเชย
4.ให้การสนับสนุน
5.ให้โอกาสในความก้าวหน้า
6.การให้รางวัล
7.การให้ความช่วยเหลือ
8.การสร้างบรรยากาศในการทำงาน
การตัดสินใจ
การตัดสินใจหมายถึงการพิจารณาทางเลือกสำหรับเรื่องใดเรื่องหนึ่งจากหลายๆทางเลือกเพื่อให้ได้ทางเลือกที่ดีที่สุด หรือเหมาะสมที่สุดสำหรับนำไปใช้ในการดำเนินกิจการเพื่อบรรลุตามวัตถุประสงค์โดยใช้เครื่องมือและกระบวนการต่างๆในการวิเคราะห์ทางเลือก
กระบวนการตัดสินใจเป็นขั้นตอนที่นำมาใช้ในการตัดสินใจซึ่งจะช่วยให้ผู้บริหารมีการตัดสินใจอย่างระเบียบทำให้การตัดสินใจมีประสิทธิภาพโดยการกระบวนโดยกระบวนการตัดสินใจประกอบด้วย
1.การกำหนดประเด็นปัญหา
2.การสร้างทางเลือก
3. การประเมินทางเลือก
4. การตัดสินใจและการนำไปใช้
5. การประเมินผล
การควบคุมสำนักงาน
การติดตามการปฏิบัติงานเพื่อตรวจสอบว่าเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้หรือไม่
วัตถุประสงค์ของการควบคุมการสำนักงาน
1 เพื่อให้ทราบถึงวิธีการปฏิบัติงานอย่างเป็นไปตามแผนงานอย่างถูกต้อง
2 เพื่อให้ผลการปฏิบัติงานมีมาตรฐานช่วยป้องกันความเสียหาย
3 เพื่อช่วยในวัดผลการปฏิบัติงานเพื่อทำให้ทราบว่าบุคลากรปฏิบัติงานอย่างถูกต้องหรือไม่
4 ช่วยจูงใจพนักงานให้มีความกระตือรือร้นในการปฏิบัติงาน
5 เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติงานให้จะให้ใช้ทรัพย์สินขององค์กรอย่างถูกต้อง
การวัดผลงาน
การวัดผลงาน หมายถึงวิธีการในการตรวจสอบผลการปฏิบัติงานของบุคลากรเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับมาตรฐานในการปฏิบัติงานซึ่งจะทำให้ทราบว่าบุคลากรสามารถปฏิบัติได้ตรงกับมาตรฐานหรือไม่
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)